Title : Let It Snow
Fandom : Final Fantasy XV
Pairing : Noctis x Luna
ปลายเดือนธันวาคม
อินซอมเนีย ราชอาณาจักรลูซิส
อินซอมเนีย ราชอาณาจักรลูซิส
ยามดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้ ทั่วทั้งพระราชวังซิทาเดลถูกปกคลุมด้วยความมืดอันเงียบงันตรงข้ามกับความสดใสครึกครื้นในยามกลางวันโดยสิ้นเชิง
หากแต่ค่ำคืนนี้ แสงไฟของห้องประชุมสภาสูงแห่งราชอาณาจักรลูซิสยังคงส่องสว่างอยู่
ภายในห้องประชุมถูกตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม มีโต๊ะประชุมขนาดใหญ่แลดูเก่าแก่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง รายล้อมด้วยเก้าอี้ที่ว่างเปล่า
มีเพียงพระเก้าอี้ของกษัตริย์แห่งลูซิสที่อยู่ปลายสุดเท่านั้นที่มีใครคนหนึ่งจับจองไว้
น็อคติสในชุดไหมพรมอุ่นหนาสีดำสนิทกำลังพิจารณาเอกสารที่วางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะอย่างตั้งอกตั้งใจ ในมือซ้ายของเขาถือรายงานฉบับล่าสุดของอิกนิส ขณะที่สายตาของเขาไล่อ่านเอกสารที่ได้รับจากหน่วยงานอื่นๆพลางใช้สมองขบคิดกับปัญหาที่กำลังเป็นข้อพิพาทภายในอาณาจักรขณะนี้
ในตอนนั้นเอง ประตูของห้องประชุมก็เปิดออก
"อา อยู่นี่เอง..."
เสียงหวานเจื้อยที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นขณะที่น็อคติสเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า
เขามองเห็นร่างบางอ้อนแอ้นของหญิงสาวผมบลอนด์ในชุดแคนดิแกนไหมพรมสีขาวและเลกกิ้งสีดำกำลังยืนแย้มยิ้มอยู่หน้าประตู
เธอผู้เป็นราชินีที่เขารักยิ่ง
"ลูน่า..."
ทำไมเขาถึงยิ้มได้ทุกครั้งที่เรียกชื่อเธอเลยนะ?
ด้านลูน่าปิดประตูเบาๆ ก่อนเดินเข้ามาหาน็อคติส
"อ่านเอกสารอยู่หรอคะ?"
หญิงสาววางมือลงบนไหล่ทั้งสองข้าง พลางมองดูเอกสารที่วางอยู่เต็มโต๊ะตรงหน้าสามี
"อืม มีประชุมสภาลูซิสวันพรุ่งนี้"
น็อคติสตอบพร้อมกับแนบศีรษะกับแขนข้างหนึ่งของลูน่า
"หมายถึงวันนี้รึเปล่าคะ?"
ลูน่าหัวเราะคิกคักพลางชี้ให้น็อคติสดูนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนไว้บนผนังห้อง เข็มสั้นและยาวชี้บอกว่าขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนครึ่งแล้ว
"ดึกป่านนี้แล้วหรอเนี่ย?"
น็อคติสเพิ่งรู้ตัวว่าเขาทำงานจนเวลาล่วงเลยไปมากขนาดนี้
"หักโหมทำงานเกินไป เดี๋ยวเสียสุขภาพนะคะ"
ราชินีสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับบีบนวดไหล่ทั้งสองของกษัตริย์หนุ่มเบาๆ ปลายนิ้วทั้งสิบของเธอสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่แข็งตึงจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน
ด้านน็อคติสรู้สึกผ่อนคลายจากความอ่อนล้าลงบ้าง เขาเงยหน้าขึ้นมองลูน่าที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"อีกนิดก็จะเสร็จแล้วล่ะ เธอเข้านอนก่อนเถอะ"
ทว่าหญิงสาวกลับส่ายหน้าช้าๆ ก่อนตอบยิ้มๆ
"ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนค่ะ"
ลูน่าหันไปทางเก้าอี้ว่างที่อยู่ถัดไป
ทว่าหลังจากผละมือทั้งสองจากบ่าของน็อคติสไปได้ไม่กี่วินาที ชายหนุ่มก็เอ่ยเรียกเธอไว้เสียก่อน
"ลูน่า"
"คะ?"
"...."
น็อคติสไม่ตอบอะไร เขาเลื่อนเก้าอี้ที่ตนนั่งอยู่ให้ถอยไปข้างหลังก่อนหันไปหาภรรยาสาวและอ้าแขนทั้งสองออกเล็กน้อย
ด้านลูน่าเข้าใจความหมายของเขาในทันที เธอแย้มยิ้มอย่างยินดีก่อนเดินเข้าไปใกล้ และนั่งลงบนตักของสามี แขนแกร่งทั้งสองของน็อคติสโอบล้อมร่างบางของลูน่าเอาไว้หลวมๆ ขณะที่ชายหนุ่มประทับจุมพิตที่เรือนผมสีบลอนด์สวยของเธอเบาๆ
ถ้าเธอจะนั่งอยู่เป็นเพื่อนเขาแล้วละก็...
ให้เธอ"นั่ง"แบบนี้ดีกว่าเป็นไหนๆ
แน่นอนว่าหญิงสาวผู้รู้ใจย่อมมองออก
บางที ความเอาแต่ใจแบบเด็กๆของน็อคติสเป็นสิ่งที่ทำให้เธอรักเขามากเหลือเกิน
"น็อคติสเนี่ย...ขี้อ้อนจังเลยนะคะ"
ลูน่าเอ่ยพลางหัวเราะคิกคัก ขณะที่อีกฝ่ายหยิบเอกสารขึ้นมาดูอีกรอบเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย
"...กับลูน่าแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ"
แต่ก็ไม่อาจลบสีแดงระเรื่อที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาได้อยู่ดี
ลูน่าตัดสินใจไม่รบกวนสามีอีก เธอปรับท่านั่งบนตักของเขาเล็กน้อย แขนเรียวบางโอบล้อมรอบคอของชายหนุ่มก่อนแนบศีรษะลงกับไหล่ข้างหนึ่งของเขา
ความเงียบสงบมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
ทว่า น็อคติสอ่านเอกสารต่อไปได้สักพักหนึ่งเขากลับรู้สึกถึงอะไรผิดปกติบางอย่าง
ร่างของหญิงสาวในอ้อมกอดของเขากำลังสั่นระริก
"ลูน่า...หนาวหรอ?"
เขาเอ่ยถาม
"นิดหน่อยค่ะ"
ลูน่าเงยหน้าขึ้นสบตาน็อคติสก่อนยิ้มบางๆ
"คืนนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าหิมะตกหนัก พรุ่งนี้เช้าคงได้เห็นอินซอมเนียเป็นสีขาวโพลนแน่เลยค่ะ"
หญิงสาวหันไปมองหน้าต่างบานใหญ่กรุด้วยกระจกใส แลเห็นละอองหิมะสีขาวที่โปรยปรายลงมาจากฟ้ายามค่ำเบื้องบน แม้ภายในพระราชวังจะติดตั้งฮีตเตอร์ไว้ทุกห้องทั่วทั้งอาคาร แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงไอเย็นของหิมะที่เล็ดลอดผ่านเข้ามาได้
ไอเย็นทำให้ลูน่าเบียดกายเข้าหาไออุ่นจากน็อคติสอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
แขนทั้งสองของเธอโอบกระชับแน่นขึ้น
ลมหายใจอุ่นของเธอปะทะกับต้นคอ
ร่างบางอ้อนแอ้นใต้ชุดไหมพรมสีขาวแนบชิดคลอเคลียอยู่บนตัก
น็อคติสอ่านประโยคเดิมบนเอกสารซ้ำไปมาในหัว 5 รอบได้แล้ว...
เขารู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาจะยั่วยัวเขา
แต่...
น็อคติสตัดสินใจวางเอกสารลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงรั้งแขนแกร่งทั้งสองโอบกระชับร่างของลูน่าให้แนบชิดกับเขามากยิ่งขึ้น
"ไม่อ่านต่อแล้วหรอคะ?"
ลูน่าเงยหน้าพร้อมกับเลิกคิ้วอย่างงุนงง
"ไว้อ่านต่อพรุ่งนี้เช้าก็ได้"
น็อคติสหน้ามาหาหญิงสาวในอ้อมกอด ดวงตาของคนทั้งคู่สบประสานกันก่อนชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ พลางใช้ปลายจมูกรั้นไปคลอเคลียใบหน้าอ่อนหวานของผู้เป็นภรรยาและราชินีของเขา
"ลูน่าบอกเองไม่ใช่หรอว่าอย่าหักโหมน่ะ?"
หญิงสาวหลับตาลงเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของอีกฝ่ายที่แทบทำให้เธอลืมความหนาวเย็นเมื่อครู่ไปเสียสนิท
"แต่ว่า...อื้ม!"
ลูน่าไม่ทันจะได้ทักท้วงอะไร น็อคติสก็ประทับจุมพิตลงบนริมฝีปากสีชมพูหวานฉ่ำของเธอทันที ปลายลิ้นของชายหนุ่มไล้เลียไปมาบนริมฝีปากล่างก่อนหญิงสาวจะเผยอปากให้ลิ้นอุ่นของเขาได้แทรกเข้าไปควานหาความหอมหวานของเธอ
น็อคติสถอนจูบออกมาอย่างเชื่องช้าและอ้อยอิ่ง รสสัมผัสแสนหวานยังติดตรึงอยู่บนปลายลิ้นและริมฝีปากของเขา
ดวงตาสีฟ้าคู่สวยของชายหนุ่มที่จับจ้องหญิงสาวคนตรงหน้าบัดนี้เต็มไปด้วยความปรารถนา
"อีกอย่าง ฉันจะปล่อยให้ราชินีทนหนาวแบบนี้ต่อไปได้ยังไง?"
ราชาหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าใกล้อีกครั้งก่อนจูบไล้จากริมฝีปากคู่สวยไปยังพวงแก้มใสที่ถูกย้อมด้วยสีแดงก่ำ จากนั้นจึงเคลื่อนต่อไปยังใบหู
เขาขบกัดใบหูของเธอเบาๆก่อนไล้เลียด้วยลิ้นอุ่นตามมา
"อ๊ะ!"
ร่างบางของหญิงสาวบิดเร่าในอ้อมแขนของชายหนุ่ม ขณะที่มือทั้งสองของเขาเลื่อนขึ้นแตะกระดุมเสื้อไหมพรมสีขาวที่เธอสวมใส่อยู่
"นะ...น็อคติส..."
เธอพยายามเอ่ยทักท้วงแต่กลับไม่เป็นผล กระดุมเสื้อของเธอถูกปลดออกไปทีละเม็ดเผยให้เห็นคอขาวระหงและจี้รูปพระจันทร์ที่แสนคุ้นตา ริมฝีปากของเขาที่คลอเคลียอยู่ข้างใบหูเลื่อนต่ำลงมา จากนั้นจึงพรมจุมพิตลงบนซอกคอ แต่งแต้มผิวเนียนละเอียดสีขาวด้วยรอยจูบสีกุหลาบ
นี่เขาคิดจะ...
ตรงนี้...จริงๆหรอ?
"ที่นี่...มะ...ไม่ได้นะคะ"
ลูน่าพยายามห้ามน็อคติสอีกครั้ง ขณะที่อีกฝ่ายดึงเสื้อไหมพรมของเธอ เผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเนียนทั้งสองข้าง
ลูน่าตัวสั่นระริก
หากแต่ไม่ใช่เพราะความหนาวเย็นอีกต่อไป
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?"
ชายหนุ่มจุมพิตลงบนหัวไหล่ข้างหนึ่ง ก่อนเลื่อนใบหน้าขึ้นไปกระซิบถามที่ข้างหู
"ก็มัน..."
"เธอหนาวไม่ใช่หรอ?"
เขาย้อนถามพลางรั้งสาบเสื้อทั้งสองข้างลงมาให้พ้นตัว มือทั้งสองของชายหนุ่มเลื่อนสายบราเซียร์ทั้งซ้ายขวาให้หลุดออกจากบ่าของหญิงสาว จากนั้นจึงเลื่อนมือไปปลดตะขอด้านหลังอย่างชำนาญ
"น็อคติส...!"
ลูน่ารีบยกมือทั้งสองขึ้นมาด้านหน้าเพื่อยึดไม่ให้บราเซียร์เลื่อนหลุด
ด้านน็อคติสไม่สนใจเสียงร้องของเธอ เขาไล่ประทับจุมพิตลงบนแผ่นหลังเนียนละเอียดสีงาช้าง
"อะ...อา..."
เสียงครางหวานของลูน่าเปรียบเสมือนเสียงเพลงแสนไพเราะสำหรับเขา
เขาอยากได้ยินเสียงนั้นอีก
อยากฟังเสียงเธอร่ำร้องหาเขาด้วยความปรารถนาอีกตลอดค่ำคืนนี้
และตลอดชั่วชีวิตของเขา
"ว้าย!"
ในตอนนั้นเอง น็อคติสผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับช้อนร่างของลูน่าขึ้นแนบอกกว้างของเขาด้วยแขนเพียงข้างเดียว ขณะที่แขนอีกข้างกวาดเอาเอกสารที่วางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะทิ้งลงกับพื้น
เมื่อสิ่งเกะกะถูกกวาดทิ้งไปให้พ้นทางแล้ว น็อคติสวางร่างบางของลูน่าลงบนกับโต๊ะ หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อแผ่นหลังเปลือยเปล่าสัมผัสกับพื้นไม้เย็นเฉียบ แต่ในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นและความเร่าร้อนจากชายหนุ่มที่โน้มกายคร่อมขังเธอเอาไว้ดั่งกรงขังไม่ให้เธอหนีไปไหนได้
"นะ...น็อคติส..."
"ลูน่า..."
น็อคติสโน้มใบหน้าลงจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายพลางแตะมือทั้งสองของลูน่าให้คลายออกช้าๆ
ลมหายใจอุ่นร้อนและเสียงกระซิบเอื้อนเอ่ยเป็นชื่อของเธอทำให้หญิงสาวไม่อาจขัดขืนได้อีก
ลูน่าคลายมือทั้งสองข้างจนบราเซียร์เลื่อนหลุดออกไป
เผยให้เห็นหน้าอกอิ่มแสนเย้ายวน
ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ดวงตาสีฟ้าคู่สวยเต็มไปด้วยความเขินอายและความปรารถนาที่ค่อยๆเพิ่มทวี
น็อคติสจ้องมองภาพตรงหน้าราวกับต้องมนต์
ราชินีของเขา
เทพธิดาของเขา
...สวยเหลือเกิน
ราชาหนุ่มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนเอ่ยด้วยเสียงกระซิบ
"...ฉันจะทำให้อุ่นเอง"
สิ้นคำพูดของชายหนุ่ม ปลายลิ้นอุ่นของเขาเริ่มโลมเลียผิวเนียนสวยก่อนไล้ไปสู่ยอดถันสีชมพูข้างซ้าย ลิ้นและฟันมอบสัมผัสแสนหวานและเร่าร้อนยิ่งขึ้น ทั้งขบ ดูดเม้ม ไล้เลียสร้างสัมผัสที่ทำให้หญิงสาวบิดเร่าอย่างเสียวซ่านมากยิ่งขึ้น
"อื้ออออ...!"
อดีตเจ้าหญิงแห่งเทเนไบรยกมือทั้งสองชึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงคราง
ความหนาวเหน็บจากไอเย็นของหิมะมลายหายไปสิ้น
แต่กลับความร้อนแรงแห่งความปรารถนาเข้ามาแทนที่
"ลูน่า..."
น็อคติสผละปลายลิ้นจากยอดอก ก่อนใช้ปลายนิ้วหยอกเย้ากับยอดถันทั้งสองข้างแทนที่ ทำเอาหญิงสาวยิ่งต้องกลั้นเสียงครางที่ดังขึ้นเท่าทวี
"...ฉันอยากได้ยินเสียงของเธอ"
ราชาหนุ่มเว้าวอน
ทว่าราชินีของเขากลับส่ายหน้า ไม่ยอมให้เขาได้ยินเสียงครางแสนน่าอายของเธอ
น็อคติสหรี่ตาลงพลางเลื่อนมือข้างหนึ่งจากอกอิ่ม ไล่ผ่านหน้าท้องแบบราบช้าๆ แยกขาทั้งสองข้างของเธอออกจากกันก่อนจะดึงเลกกิ้งสีดำแนบเนื้อของลูน่าไปให้พ้นทาง
"นะ...น็อคติส..."
ลูน่าเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนกพร้อมกับคลายมือออกโดยไม่รู้ตัว
เขาสอดมือไปยังส่วนซ่อนเร้นระหว่างขาของหญิงสาว ปลายนิ้วแตะสัมผัสถึงความชุ่มชื้นที่ก่อตัวขึ้นผ่านเนื้อผ้าเรียบลื่นก่อนจะสอดปลายนิ้วเข้าไปยังด้านใน
"อ๊า...!!"
ปลายนิ้วเรียวของราชาหนุ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะพร้อมกับเฟ้นคลึงจุดอ่อนไหวทำเอาร่างบางกระตุก บิดเร่า และสั่นเทิ้มด้วยความหฤหรรษ์ของเกมรักที่เขามอบให้ เสียงครางหวานที่เขาปรารถนาดังก้องกังวานไปทั่วทั้งห้อง
ชายหนุ่มแย้มยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นใบหน้าของราชินีผู้เป็นที่รัก ดวงตาทั้งสองข้างของเธอหรี่ลงพร้อมกับมีน้ำตาคลอ ริมฝีปากคู่สวยอ้าเผยอครวญคราง พลางหอบหายใจถี่กระชั้นจากสัมผัสที่เขามอบให้
"นะ...น็อค..."
เขาก้มลงจุมพิตไล้เลียยอดอกของเธออีกคราขณะที่ปลายนิ้วยังคงขยับสร้างความเสียวซ่านปรนเปรอเธอต่อไป
มือทั้งสองของลูน่าไม่ปิดกลั้นเสียงร้องของตัวเองอีกต่อไป แต่กลับแทรกลงในเส้นผมสีดำของน็อคติสแทนที่้เพื่อประคองศีรษะของเขาให้ไม่ผละไปจากเธอ แผ่นหลังที่เคยแนบสนิทไปกับผิวโต๊ะบัดนี้โก่งโค้งดุจคันศร แอ่นรับสัมผัสรักแสนหวานและร้อนแรงจากผู้เป็นสามี
"อ๊ะ..ฮ้า..."
แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสถึงจุดสุดยอด น็อคติสกลับดึงนิ้วออกช้าๆ
ด้านลูน่าร้องท้วงในลำคอราวกับไม่พอใจที่สัมผัสแสนวาบหวามดั่งเวทย์มนต์นั้นต้องหยุดชะงักลง
"อื้อ..."
น็อคติสยกปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำรักหวานล้ำขึ้นมา เขาจ้องมองเธอตาไม่กะพริบขณะใช้ลิ้นไล้เลียชิมรสหอมหวานของลูน่าอย่างหิวกระหาย
วินาทีนั้น ลูน่าแทบลืมหายใจ
"นะ...น็อคติส..."
แม้ในตอนนี้หญิงสาวแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงอีกต่อไป แต่เธอก็ยังยกแขนทั้งสองขึ้นโอบรอบลำคอของชายหนุ่ม รั้งให้เขาเข้ามาแนบชิดเธออีกครา
"หืม?"
ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับริมฝีปากของเธอแผ่วเบาราวขนนก
ดวงตาสีฟ้าคู่สวยของเธอเปี่ยมด้วยความรักและความปรารถนาเว้าวอน
"อย่า...หยุด...นะคะ"
เสียงหวานที่เขารักหมดใจเอ่ยออดอ้อน
ราชาหนุ่มมองภาพราชินีที่รักกำลังออดอ้อนขอร้องเขาเช่นนี้ก็ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป
น็อคติสเลื่อนมือไปถอดกางเกงชั้นในตัวน้อยที่เป็นอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายบนร่างของลูน่าออกไปให้พ้นทาง เขารูดซิปกางเกงลงก่อนขยับตัวเข้าไปใกล้ ขาเรียวงามของเธอพันเกี่ยวกักเขาไว้ราวกับเป็นเครื่องพันธนาการ
"ลูน่า..."
ชายหนุ่มโน้มตัวประทับจูบลงบนริมฝีปากคู่งามอย่างดูดดื่ม ลิ้นทั้งสองเกี่ยวพันกระหวัดกัน ก่อนกระแทกสะโพกไปข้างหน้าอย่างดุเดือนเร่าร้อน ส่งผ่านความร้อนรุ่มจากแก่นกายของชายชาตรีมอบให้แก่เธอ
"อ๊าาาาา!!!"
ลูน่าร้องครางขึ้นมาสุดเสียง หญิงสาวแอ่นหลังและยกสะโพกขึ้นรับสัมผัสรักหนักหน่วงที่เข้ามาเติมเต็มกายและใจ นิ้วทั้งสิบจิกลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม น็อคติสเร่งจังหวะให้เร็วและแรงมากขึ้น
"นะ..น็อคติส...อะ อ๊า!"
"ลูน่า...!!"
จังหวะรักของทั้งคู่สอดประสานเป็นท่วงทำนองแห่งความสุขสม
เสียงครางเอ่ยร้องเรียกชื่อของกันและกันดังขึ้นพร้อมกับเสียงหอบหายใจฮัก
ก่อนทั้งคู่จะก้าวไปสู่จุดสุดยอดแห่งการร่วมอภิรมย์
จุมพิตสุดท้ายก่อนเข้าสู่ห้วงนิทรานั้นแสนอ่อนหวานและวาบหวามใจ
ริมฝีปากของเขาขยับแผ่วเบา เอื้อนเอ่ยออกมาเป็นคำว่ารักแด่เธอเพียงผู้เดียวเท่านั้น
...ฉันรักเธอ...
หิมะหนาวเหน็บยังคงโปรยปรายทั่วอินซอมเนียตลอดทั้งคืน
หากแต่ในอ้อมกอดของเขานั้นช่างอบอุ่นเหลือเกิน
..........................................
ดวงอาทิตย์แสนอบอุ่นได้มาเยือนท้องฟ้าเหนืออินซอมเนียที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน รวมไปถึงพระราชวังซิทาเดลที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง
อิกนิสแปลกใจเมื่อเห็นแสงไฟส่องสว่างจากห้องประชุมสภาสูงทั้งที่เป็นเวลาเช้าตรู่
ลืมปิดไฟงั้นหรอ?
หรือว่ามีใครอยู่ในนั้น?
ราชเลขาหนุ่มคิดเช่นนั้นก่อนตัดสินใจเปิดประตูห้อง
ชายหนุ่มประหลาดใจเล็กน้อยกับภาพที่เห็นตรงหน้า
ราชาแห่งลูซิสในชุดไหมพรมสีดำนั่งอยู่บนเก้าอี้ประจำตัวของเขา บนตักมีร่างของราชินีสาวในชุดเสื้อไหมพรมสีขาวนอนอิงแอบแนบชิดโดยมีแขนแกร่งของผู้เป็นสามีโอบกอดเธอเอาไว้
ดวงตาของทั้งสองปิดสนิท ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ
ทั้งคู่ยังคงอยู่ในห้วงนิทราของกันและกันโดยไม่ได้รู้ถึงการมาเยือนของเขาแม้แต่น้อย
สงสัยจะอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืนสินะ?
อิกนิสรู้ดีว่าน็อคติสเป็นคนหลับง่ายและสามารถนอนหลับได้ทุกที่
แต่คงมีเพียงลูน่าเฟรย่าเท่านั้นที่ทำให้น็อคติสหลับสนิทด้วยใบหน้ามีความสุขเช่นนี้
ในตอนนั้นเอง ราชเลขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเอกสารของน็อคติสกระจัดกระจายอยู่ที่พื้นและใต้โต๊ะเต็มไปหมด เอกสารบางส่วนที่ยังอยู่บนโต๊ะก็วางเกะกะไปทั่ว
เขานึกฉงนว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?
พลางลังเลว่าจะปลุกทั้งคู่ดีหรือไม่?
หรือว่าเขาควรหาผ้าห่มมาให้ทั้งคู่ดี?
แต่เมื่อมองดูใบหน้ายามหลับของคนทั้งคู่แล้ว...
อิกนิสส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะแย้มยิ้มบางๆออกมา
...อย่าเพิ่งปลุกดีกว่านะ
อิกนิสก้าวถอยหลังพร้อมกับปิดประตูลงเบาๆ และเดินจากไป
ความลับในคืนหิมะโปรยปรายนั้นยังคงเป็นความลับขององค์ราชาและราชินีเพียง 2 คนตลอดไป
END.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น